by author1 author1

กล้วยน้ำว้าดิบ

กล้วยน้ำว้าดิบ พบสารสำคัญสรรพคุณล้นในการรักษาโรค

ขึ้นชื่อว่ากล้วย ผลไม้รสชาติหวาน อร่อย กินได้ง่ายทุกเพศ ทุกวัย หากินได้ทั่วทุกแห่งในโลก แต่สำหรับประเทศเรานั้นมีกล้วยเพียงไม่กี่ชนิดที่คนนิยมกินมาก เช่น กล้วยหอม กล้วยหักมุก กล้วยเล็บมือนาง และกล้วยน้ำว้า โดยเฉพาะกล้วยอย่างหลังสุด “กล้วยน้ำว้า” มีสรรพคุณทางยามากมาย จนมีการศึกษาและงานวิจัยออกมายืนยันสรรพคุณอยู่เรื่อย ๆ เราจึงรวบรวม งานวิจัยผงกล้วยน้ำว้าดิบ ที่เรียกได้ว่าสรรพคุณล้นหลามในการรักษาโรค

สารสำคัญในกล้วยน้ำว้าดิบผง

แหล่งที่มา : http://www.thaicrudedrugom

ในผงกล้วยน้ำว้าดิบ  นั้นจะประกอบไปด้วยสารสำคัญอย่าง  สารแทนนิน (Tannin)  ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารตกตะกอนโปรตีน  มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราได้ดี  จึงช่วยเคลือบป้องกันผนังกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่ให้ถูกทำลายโดยอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน  อาหารที่ส่งผลต่อการระคายเคืองที่กระเพาะ รวมถึงกรดในกระเพาะในช่วงที่ท้องว่าง

 นอกจากนี้กล้วยดิบ  ยังช่วยรักษาอาการท้องเสียได้ด้วย

ซึ่งสารอีกตัวหนึ่งที่สำคัญมากที่พบได้ในกล้วยดิบ นั่นคือ  เซโรโทนิน  ออกฤทธิ์กระตุ้นให้ผนังเยื่อบุกระเพาะอาหารหลั่งเมือกออกมาเคลือบกระเพาะ ป้องกันการถูกกรดในกระเพาะอาหารย่อยอีกทีหนึ่ง

ยังมีงานวิจัยศึกษาว่า กล้วยน้ำว้าดิบ  ช่วยป้องกันและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร โดยทำการทดลองกับหนูขาวด้วยการป้อนกล้วยน้ำว้าดิบ  พบว่า กล้วยนั้นสามารถต้านการเกิดแผลในกระเพาะ โดยกลไกการออกฤทธ์น่าจะเกิดการกระตุ้นให้เซลล์ในเยื่อบุกระเพาะอาหาร เกิดจากการหลั่งสารจำพวก Mucin ที่หลั่งออกมาเพื่อเคลือบกระเพาะ ซึ่งได้ผลที่ดีกว่ายาปฏิชีวนะอย่าง Aluminium hydroxide, Cimetidine และ Poslagiandin

 

นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในผู้ที่อ้วนลงพุง โดยพบว่า การกินผงกล้วยดิบมีผลช่วยลดขนาดรอบสะโพก (hip circumference) ลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดัน  การกินผงกล้วยดิบมีผลช่วยให้รูปร่างและค่าทางชีวเคมีในเลือดของผู้ป่วยที่มีน้ำหนักเกินและมีภาวะอ้วนลงพุงดีขึ้นได้ แต่ไม่ได้ผลในกลุ่มผู้ที่น้ำหนักเกิน แต่ไม่ถึงกับอ้วนลงพุง

แหล่งที่มา : https://www.krodlaiyon.com/research-banana-namwa/

 

แหล่งที่มา : https://www.kasettambon.com

วิธีการทำแป้งกล้วย

  • นํากล้วยดิบตัดแยกเป็นผล ล้างด้วยน้ำให้สะอาด
  • ลวกในน้ำเดือดเป็นเวลา 45 วินาทีและแช่ในน้ำเย็นทันที
  • ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ แช่ในสารละลายโซเดียมเมตาไบซัลไฟต์ความเข้มข้น ร้อยละ 0.1 เป็นเวลา 30 นาที (การเตรียมทําโดยชั่ง โซเดียมเมตาไบซัลไฟต์ 1 กรัม เติมน้ำทำให้ได้สารละลาย 1 ลิตร และคนให้ละลาย) นําขึ้นผึ่งให้สะเด็ดน้ำ เกลี่ยบนถาดซึ่งเป็นตะแกรงโปร่ง
  • นําไปทําให้แห้ง โดยนําเข้าอบในตู้อบแห้งแบบใช้ลมร้อน ควบคุมอุณหภูมิ 55-60°C หรือตากให้แห้ง โดยใช้แสงแดด หรือเครื่องอบแห้งพลังแสงอาทิตย์จนแห้งกรอบ
  • นําไปบดให้เป็นผง แล้วร่อนผ่านตะแกรงร่อน ขนาด 80 Mesh บรรจุในภาชนะบรรจุปิดสนิท

แหล่งที่มา : https://www.kasettambon.com