ถังนมเย็น (MILK CHILLER) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บรักษาน้ำนมสดหรือน้ำนมที่ถูกกระตุ้นให้เย็นลงจากอุณหภูมิที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาคุณภาพของนม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมนมและผลิตภัณฑ์นม มันเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการทำความเย็นและการจัดเก็บนมที่มีคุณภาพสูงในโรงงานนม โรงเรือนเกษตรและสถานที่ที่มีการผลิตนมเกษตรอื่น ๆ

ถังนมเย็น (MILK CHILLER) คืออะไร?

ถังนมเย็น เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บรักษาน้ำนมสดหรือน้ำนมที่ถูกทำให้เย็นลง โดยจะควบคุมอุณหภูมิอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาคุณภาพของนมในระยะเวลาที่กำหนด อุปกรณ์นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมนมและผลิตภัณฑ์จากนม เพื่อให้สามารถคงคุณภาพและความสดของนมได้ก่อนที่จะถูกส่งต่อไปยังขั้นตอนการผลิตหรือการแปรรูปเพิ่มเติม

 

องค์ประกอบของถังนมเย็น

  1. ถังสแตนเลสเกรดสูง: เป็นวัสดุที่มีความทนทานและทนต่อการกัดกร่อน ซึ่งช่วยรักษาความสะอาดและลดโอกาสในการปนเปื้อน
  2. ระบบทำความเย็น: ประกอบด้วยคอมเพรสเซอร์และสารทำความเย็นที่ช่วยรักษาอุณหภูมิของนมให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย
  3. ตัวควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ: ช่วยควบคุมและปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม
  4. ระบบกวน: เพื่อให้นมเย็นลงอย่างสม่ำเสมอและป้องกันการเกาะตัวของครีมที่ผิวนม
  5. ระบบฉนวนกันความร้อน: ช่วยรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับคงที่และประหยัดพลังงาน

 

ตัวอย่างการใช้งานของถังนมเย็น

  1. อุตสาหกรรมนม: ใช้ในการเก็บรักษาน้ำนมสดที่เก็บมาจากฟาร์มก่อนส่งไปยังโรงงานเพื่อแปรรูป
  2. ฟาร์มเลี้ยงวัวนม: ใช้ในกระบวนการเก็บน้ำนมสดทันทีหลังจากการรีด เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
  3. โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์นม: ใช้เก็บรักษานมที่ผ่านการทำความเย็นแล้วเพื่อส่งต่อไปยังการผลิตผลิตภัณฑ์นมต่างๆ เช่น โยเกิร์ตหรือชีส

 

ราคาโดยประมาณของถังนมเย็น

ราคาของถังนมเย็นอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดและระบบทำความเย็นที่ใช้ โดยปกติราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 100,000 บาท และอาจสูงขึ้นไปถึงหลักล้านบาทสำหรับรุ่นที่มีขนาดใหญ่และฟังก์ชันเสริม

 

ข้อดีข้อเสียของถังนมเย็น

ข้อดี:

  • ช่วยรักษาคุณภาพและความสดของนม
  • ลดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในนม
  • มีระบบทำความเย็นที่อัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลา

ข้อเสีย:

  • ต้องการการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
  • มีต้นทุนเริ่มต้นที่สูง

 

วิธีการเลือกถังนมเย็น

  • ขนาดของถัง: เลือกตามปริมาณการผลิตนมในแต่ละวัน
  • ระบบทำความเย็น: ควรเลือกที่มีความเสถียรและประหยัดพลังงาน
  • ระบบควบคุม: ตรวจสอบว่ามีระบบควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำและง่ายต่อการใช้งาน
  • บริการหลังการขาย: เลือกผู้ผลิตที่มีบริการหลังการขายที่ดีเพื่อการบำรุงรักษาในระยะยาว

 

วัตถุดิบที่ใช้กับถังนมเย็น

ถังนี้สามารถใช้ในการเก็บรักษานมดิบ, น้ำนมที่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์, และผลิตภัณฑ์นมที่ต้องการการทำความเย็นอื่นๆ

 

ประวัติความเป็นมาของถังนมเย็น

ถังนมเย็น (MILK CHILLER)  มีประวัติการพัฒนาที่ยาวนานควบคู่กับการเติบโตของอุตสาหกรรมนมในยุโรปและอเมริกา การพัฒนาถังนมเย็นเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เมื่อความต้องการเก็บรักษาน้ำนมสดที่รีดจากวัวเพิ่มมากขึ้น ในอดีต ฟาร์มเลี้ยงวัวนมมักมีปัญหาในการรักษาคุณภาพของนมเนื่องจากนมสดที่รีดออกมาต้องถูกเก็บไว้ในภาชนะธรรมดา ซึ่งไม่มีการควบคุมอุณหภูมิ ทำให้นมบูดหรือเสียคุณภาพได้ง่าย

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 การทำความเย็นเริ่มเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมอาหารมากขึ้น ระบบทำความเย็นด้วยน้ำแข็งถูกใช้เพื่อเก็บน้ำนมให้อยู่ในอุณหภูมิต่ำ แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาความเย็นได้ยาวนาน ต่อมาในปี 1930 เทคโนโลยีการทำความเย็นด้วยไฟฟ้าถูกพัฒนาขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมนมสามารถปรับใช้ระบบทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การใช้ถังทำความเย็นนมในฟาร์มเริ่มแพร่หลายอย่างกว้างขวางในช่วงปี 1940 เมื่อบริษัทผลิตเครื่องทำความเย็นนำเสนอเครื่องทำความเย็นที่สามารถทำงานได้อัตโนมัติและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

การพัฒนาระบบกวนภายในถังนมเย็นเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1950 เพื่อป้องกันการแยกตัวของครีมที่ลอยขึ้นมา ทำให้นมที่เก็บไว้คงคุณภาพสูงและสามารถนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์นมได้หลากหลาย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำในการรักษาอุณหภูมิและคุณภาพของน้ำนม ปัจจุบัน ถังนมเย็นได้กลายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในฟาร์มเลี้ยงวัวนมและอุตสาหกรรมนมทั่วโลก

การพัฒนาถังนมเย็นสะท้อนถึงความสำคัญของการทำความเย็นในกระบวนการผลิตนม ตั้งแต่การรีดนมจากฟาร์มจนถึงการขนส่งและการแปรรูป นวัตกรรมในการทำความเย็นและการกวนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการผลิตนม

นี่คือลักษณะและส่วนประกอบสำคัญของถังนมเย็น

1. โครงสร้างของถัง ถังนมเย็นมักมีโครงสร้างที่ทนทานและป้องกันการรั่วไหล เช่น สแตนเลสสตีลหรือวัสดุที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำนม

2. ฝาเปิดและปิด ถังมักมีฝาเปิดและปิดที่มั่นคงและป้องกันการรั่วไหล เพื่อรักษาความสดของนมและป้องกันการสูญเสียของน้ำนมจากการรั่วไหล

3. ระบบทำความเย็น ระบบทำความเย็นในถังนมเย็นมักเป็นเทคโนโลยีที่ใช้หลักการของท่อเย็นหรือระบบทำความเย็นที่ใช้คอมเพรสเซอร์เพื่อควบคุมอุณหภูมิของนมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

4. ช่องระบายน้ำย่อย บางรุ่นของถังนมเย็นอาจมีช่องระบายน้ำย่อยที่ช่วยให้ง่ายต่อการล้างถังและรักษาความสะอาด

5. ตัววัดอุณหภูมิ มักมีตัววัดอุณหภูมิที่ติดตั้งอยู่บนถังเพื่อให้สามารถตรวจวัดอุณหภูมิของนมได้ตลอดเวลา

6. ระบบรักษาความสะอาด ถังนมเย็นมักมีการออกแบบให้ง่ายต่อการทำความสะอาดเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและการสกัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

7. ความจุ ความจุของถังนมเย็นมีความหลากหลายตามขนาดและการใช้งาน เริ่มตั้งแต่ถังขนาดเล็กสำหรับใช้ที่บ้านถึงถังขนาดใหญ่สำหรับการใช้ในโรงงานหรือฟาร์ม

8. อุปกรณ์เสริม บางรุ่นของถังนมเย็นอาจมีอุปกรณ์เสริมเช่น ตัวกรองน้ำหรือช่องระบายที่ช่วยในการแยกแยะน้ำนมและส่วนต่างๆของนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ถังนมเย็นมีบทบาทสำคัญในการรักษาคุณภาพของนม โดยช่วยในการควบคุมอุณหภูมิและการจัดเก็บนมให้มีคุณภาพสูง การเลือกใช้ถังนมเย็นที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้รักษาคุณภาพของนมได้อย่างเหมาะสมในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตและจัดเก็บนมในอุตสาหกรรมนมและผลิตภัณฑ์นมในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกด้วย