เครื่องสกัดสมุนไพรอเนกประสงค์ (MULTI FUNCTION HERB EXTRACTOR) และ เครื่องสกัดสมุนไพรแบบอัลตราซอนิก (ULTRASONIC HERBAL EXTRACTOR)
ในยุคที่การดูแลสุขภาพด้วยพืชสมุนไพรกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เครื่องสกัดสมุนไพรจึงกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้การผลิตสินค้าแปรรูปจากสมุนไพรเป็นเรื่องง่ายและได้คุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเครื่อง MULTI FUNCTION HERB EXTRACTOR และ ULTRASONIC HERBAL EXTRACTOR ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายและแม่นยำยิ่งขึ้น
เครื่องนี้คืออะไร
MULTI FUNCTION HERB EXTRACTOR คือเครื่องสกัดสมุนไพรที่สามารถใช้งานได้หลายฟังก์ชัน เช่น การต้ม การกลั่น การระเหย การสกัดด้วยไอน้ำ เหมาะสำหรับผู้ผลิตที่ต้องการความยืดหยุ่นในการสกัดสมุนไพรทุกประเภท
ในขณะที่ ULTRASONIC HERBAL EXTRACTOR คือเครื่องสกัดที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (ULTRASONIC WAVES) เพื่อกระตุ้นให้ผนังเซลล์ของพืชแตกตัว ทำให้สารสำคัญภายในถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องใช้ความร้อนสูง
หลักการของเครื่อง
-
MULTI FUNCTION HERB EXTRACTOR ทำงานโดยใช้ความร้อนจากไอน้ำหรือฮีตเตอร์ในการสกัดสารออกจากสมุนไพร เช่น ต้มกลั่น หรือทำสารสกัดเข้มข้น
-
ULTRASONIC HERBAL EXTRACTOR ใช้ ULTRASONIC TECHNOLOGY สร้างฟองจิ๋วในของเหลว เมื่อฟองเหล่านี้แตกตัวจะทำให้ผนังเซลล์ของสมุนไพรแตก และสารสำคัญก็จะละลายออกมาในตัวทำละลายอย่างรวดเร็ว
องค์ประกอบของเครื่อง
MULTI FUNCTION HERB EXTRACTOR ประกอบด้วย:
-
หม้อต้มสเตนเลส
-
ชุดกลั่น (CONDENSER)
-
ถังเก็บสารสกัด
-
ระบบควบคุมอุณหภูมิและเวลา
ULTRASONIC HERBAL EXTRACTOR ประกอบด้วย:
-
แท็งก์หรือบีกเกอร์บรรจุวัตถุดิบ
-
เครื่องกำเนิดคลื่นอัลตราซอนิก (ULTRASONIC GENERATOR)
-
หัวส่งคลื่น (PROBE)
-
ระบบควบคุมคลื่น ความถี่ และอุณหภูมิ
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากเครื่องนี้
-
สารสกัดสมุนไพรเข้มข้น (HERBAL EXTRACTS)
-
น้ำมันหอมระเหย (ESSENTIAL OILS)
-
เจล/ครีม/เซรั่มจากสมุนไพร
-
ยาแผนโบราณ
-
สินค้าสปาและเครื่องสำอางจากสมุนไพร
ราคาโดยประมาณของเครื่อง
-
MULTI FUNCTION HERB EXTRACTOR: เริ่มต้นที่ประมาณ 30,000 – 150,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและฟังก์ชัน
-
ULTRASONIC HERBAL EXTRACTOR: ราคาประมาณ 50,000 – 300,000 บาท ขึ้นอยู่กับกำลังวัตต์ ความถี่ และขนาดถัง
ข้อดีข้อเสียของเครื่อง
MULTI FUNCTION HERB EXTRACTOR
ข้อดี:
-
ใช้งานได้หลากหลาย
-
เหมาะกับงานสกัดทั่วไป
-
บำรุงรักษาง่าย
ข้อเสีย:
-
ใช้เวลาในการสกัดนาน
-
ใช้พลังงานมาก
ULTRASONIC HERBAL EXTRACTOR
ข้อดี:
-
สกัดได้เร็ว
-
ประหยัดพลังงาน
-
รักษาคุณภาพสารสำคัญได้ดี
ข้อเสีย:
-
ราคาสูงกว่า
-
ต้องมีความรู้ในการใช้งานระบบอัลตราซอนิก
วิธีการเลือกเครื่อง
-
พิจารณาจากประเภทสมุนไพรที่ต้องการสกัด
-
ประเมินปริมาณการผลิตต่อวัน
-
ตรวจสอบงบประมาณและค่าใช้จ่ายในการดูแล
-
เลือกเครื่องที่มีบริการหลังการขายและอะไหล่ครบ
-
หากต้องการคุณภาพสารสกัดสูง → เลือก ULTRASONIC
-
หากต้องการใช้งานหลากหลาย → เลือก MULTI FUNCTION
วัตถุดิบที่ใช้กับเครื่อง
-
สมุนไพรสดหรือแห้ง เช่น ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร ใบบัวบก ตะไคร้ ใบเตย ฯลฯ
-
ตัวทำละลาย เช่น น้ำ, เอทานอล, กลีเซอรีน (ขึ้นกับสูตรการสกัด)
-
น้ำมันพืช (สำหรับการสกัดแบบ INFUSION)
ประวัติความเป็นมาของเทคโนโลยีนี้
-
เทคโนโลยี MULTI FUNCTION HERB EXTRACTOR เริ่มต้นจากการพัฒนาหม้อต้มยาแผนโบราณในทางแพทย์แผนจีนและไทย ต่อมามีการเพิ่มฟังก์ชันใหม่ ๆ ให้รองรับการกลั่นและเข้มข้นในเครื่องเดียว
-
เทคโนโลยี ULTRASONIC HERBAL EXTRACTION เริ่มจากวงการชีววิทยาและเภสัชกรรมในยุโรปและอเมริกา ซึ่งต้องการสกัดสารสำคัญที่ไวต่อความร้อน ต่อมาถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมสมุนไพรอย่างแพร่หลาย เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าและประหยัดพลังงานมากกว่า