เครื่องสับย่อยเอนกประสงค์ (Food Waste Disposer) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการย่อยเศษอาหารหรือวัสดุอินทรีย์อื่น ๆ เป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อลดปริมาณขยะที่ต้องการกำจัด ซึ่งมักใช้ในบ้านหรือร้านอาหารเพื่อลดปัญหาของขยะอินทรีย์ที่สะสม
เครื่องสับย่อยเอนกประสงค์ (Food Waste Disposer) คืออะไร?
เครื่องสับย่อยเอนกประสงค์ (Food Waste Disposer) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการย่อยเศษอาหารหรือวัสดุอินทรีย์อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ถูกออกแบบมาเพื่อลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัดและทำให้กระบวนการจัดการขยะอินทรีย์สะดวกมากขึ้น เครื่องนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในครัวเรือน ร้านอาหาร หรือสถานประกอบการที่ต้องการลดปริมาณขยะและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมโดยลดการสะสมของขยะอินทรีย์
หลักการของเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์
หลักการทำงานของเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์คือการใช้ใบมีดและแรงเหวี่ยงเพื่อสับและย่อยเศษอาหารหรือวัสดุอินทรีย์เป็นชิ้นเล็กๆ ซึ่งช่วยให้ขยะย่อยง่ายและถูกล้างออกไปพร้อมกับน้ำ กระบวนการนี้ทำให้การกำจัดขยะสะอาดและไม่มีกลิ่นรบกวน
องค์ประกอบของเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์
เครื่องสับย่อยเอนกประสงค์ประกอบด้วยส่วนประกอบหลักๆ ดังนี้:
- ห้องบด: ที่ใช้ในการบรรจุเศษอาหารหรือวัสดุอินทรีย์
- ใบมีดบด: ใช้สำหรับสับและย่อยเศษอาหารให้เป็นชิ้นเล็กๆ
- ระบบหมุนเหวี่ยง: เพื่อช่วยในการกระจายเศษอาหารและน้ำ
- ระบบควบคุม: สำหรับเปิด-ปิดเครื่องและควบคุมการทำงาน
- ช่องระบายน้ำ: สำหรับล้างเศษอาหารออกไปพร้อมกับน้ำ
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์
เครื่องสับย่อยเอนกประสงค์สามารถใช้ย่อยเศษอาหารต่างๆ เช่น:
- เศษผัก ผลไม้
- เศษเนื้อสัตว์
- เปลือกไข่
ราคาโดยประมาณของเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์
ราคาของเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาดและประสิทธิภาพของเครื่อง ราคามักอยู่ในช่วง 5,000 ถึง 50,000 บาท ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและการออกแบบของเครื่อง
ข้อดีข้อเสียของเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์
ข้อดี:
- ลดปริมาณขยะอินทรีย์ในครัวเรือน
- ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากขยะ
- ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
ข้อเสีย:
- ต้องการการติดตั้งและดูแลรักษา
- ราคาอาจสูงสำหรับบางรุ่น
วิธีการเลือกเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์
การเลือกเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์ควรพิจารณาจาก:
- ขนาดและความจุ: เลือกขนาดที่เหมาะสมกับปริมาณขยะที่ต้องการจัดการ
- ระบบควบคุมและความปลอดภัย: ควรเลือกเครื่องที่มีระบบความปลอดภัยและใช้งานง่าย
- วัสดุและการออกแบบ: เลือกวัสดุที่ทนทานต่อการใช้งานหนัก
วัตถุดิบที่ใช้กับเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์
วัตถุดิบที่สามารถใช้กับเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์ ได้แก่:
- เศษผัก ผลไม้
- เศษอาหารจากการประกอบอาหาร
- เปลือกผลไม้ และเปลือกไข่
ประวัติความเป็นมาของเทคโนโลยีเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์ (Food Waste Disposer)
เทคโนโลยีเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์ (Food Waste Disposer) เริ่มพัฒนาขึ้นครั้งแรกในช่วงปลายทศวรรษ 1920 โดย John W. Hammes สถาปนิกจากเมืองวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา เขาคิดค้นอุปกรณ์นี้เพื่อช่วยลดปัญหาการจัดการขยะในบ้านเรือน โดยในปี 1927 เขาได้สร้างต้นแบบของเครื่องนี้ที่ติดตั้งใต้ซิงก์ล้างจาน ทำหน้าที่ย่อยเศษอาหารให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ซึ่งสามารถล้างออกไปกับน้ำได้
เครื่องต้นแบบของ Hammes ได้รับการจดสิทธิบัตรในปี 1935 และในปี 1940 เขาได้ก่อตั้งบริษัทชื่อ InSinkErator ที่มุ่งเน้นการผลิตและจำหน่ายเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์ ซึ่งในเวลานั้นถือเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่และได้รับความสนใจอย่างมากในสหรัฐฯ
ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เทคโนโลยีการสับย่อยขยะได้แพร่หลายมากขึ้น โดยรัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนการใช้เครื่องสับย่อยเอนกประสงค์เพื่อแก้ปัญหาขยะในเมืองที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อุตสาหกรรมผลิตเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์จึงเติบโตขึ้นเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญ ในยุคนี้เทคโนโลยีเครื่องสับย่อยได้แพร่กระจายไปยังหลายประเทศทั่วโลก
ในปัจจุบัน เครื่องสับย่อยเอนกประสงค์ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีการใช้วัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อน ระบบความปลอดภัยที่ดีขึ้น และยังสามารถย่อยขยะได้หลากหลายมากขึ้น ไม่เพียงแต่เศษอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเศษวัตถุอินทรีย์อื่น ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ เครื่องยังถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัดและติดตั้งง่ายขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานในครัวเรือนทั่วไป
การเติบโตของเทคโนโลยีนี้สอดคล้องกับแนวโน้มด้านสิ่งแวดล้อม โดยเครื่องสับย่อยเอนกประสงค์ช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปทิ้งในบ่อฝังกลบ ลดปัญหาการสะสมของขยะอินทรีย์ที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นและดึงดูดสัตว์พาหะ รวมถึงช่วยลดก๊าซมีเทนจากกระบวนการย่อยสลายในบ่อขยะ