by sathorn.t sathorn.t

สเตนเลสเกรด FOOD GRADE คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหาร?

ในยุคปัจจุบันที่ความปลอดภัยของอาหารเป็นเรื่องสำคัญ การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมในการผลิตและบรรจุภัณฑ์อาหารจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม หนึ่งในวัสดุที่ได้รับความนิยมและเชื่อถือได้คือ สเตนเลสเกรด FOOD GRADE แต่หลายคนอาจสงสัยว่า สเตนเลสเกรด FOOD GRADE คืออะไร? และทำไมถึงมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหาร? บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจในเรื่องนี้อย่างละเอียด

สเตนเลสเกรด FOOD GRADE คืออะไร?

สเตนเลสเกรด FOOD GRADE คือ สเตนเลสที่ถูกออกแบบและผลิตมาเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารโดยเฉพาะ มีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการสัมผัสกับอาหารโดยไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค สเตนเลสชนิดนี้มีความทนทานต่อการกัดกร่อน ทำความสะอาดง่าย และไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร

คุณสมบัติของสเตนเลสเกรด FOOD GRADE

  • ทนต่อการกัดกร่อน: สเตนเลสเกรด FOOD GRADE มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากกรดและด่างที่อาจพบในอาหาร ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีสารปนเปื้อนเข้าสู่อาหาร
  • ทำความสะอาดง่าย: พื้นผิวของสเตนเลสชนิดนี้เรียบลื่น ทำให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างง่ายดาย ลดการสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรก
  • ไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร: สเตนเลสเกรด FOOD GRADE ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีในอาหาร จึงไม่ส่งผลต่อรสชาติ สี หรือกลิ่นของอาหาร

ประเภทของสเตนเลสเกรด FOOD GRADE

สเตนเลสเกรด FOOD GRADE ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหารมีหลายประเภท แต่ที่พบมากที่สุดคือ:

  • สเตนเลสเกรด 304: เป็นสเตนเลสที่มีส่วนผสมของโครเมียม 18% และนิกเกิล 8% มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น เครื่องครัว ถังเก็บอาหาร และอุปกรณ์การแปรรูปอาหาร
  • สเตนเลสเกรด 316: มีส่วนผสมของโครเมียม 16% นิกเกิล 10% และโมลิบดีนัม 2% ทำให้มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีและเกลือสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความเค็มหรือสารเคมีสูง เช่น อุตสาหกรรมอาหารทะเล

ทำไมสเตนเลสเกรด FOOD GRADE ถึงสำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหาร?

การเลือกใช้สเตนเลสเกรด FOOD GRADE ในอุตสาหกรรมอาหารมีความสำคัญดังนี้:

  • ความปลอดภัยของผู้บริโภค: สเตนเลสเกรด FOOD GRADE ช่วยป้องกันการปนเปื้อนของสารเคมีหรือโลหะหนักที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค
  • รักษาคุณภาพของอาหาร: ด้วยคุณสมบัติที่ไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร ทำให้อาหารคงรสชาติ สี และกลิ่นที่แท้จริง
  • ความทนทานและอายุการใช้งานยาวนาน: สเตนเลสเกรด FOOD GRADE มีความทนทานต่อการกัดกร่อนและการสึกหรอ ทำให้อุปกรณ์และเครื่องมือมีอายุการใช้งานยาวนาน ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

การเลือกใช้สเตนเลสเกรด FOOD GRADE ให้เหมาะสม

เมื่อเลือกใช้สเตนเลสเกรด FOOD GRADE ควรพิจารณาดังนี้:

  • ประเภทของอาหาร: หากเป็นอาหารที่มีความเค็มหรือมีสารเคมีสูง ควรเลือกใช้สเตนเลสเกรด 316 ที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงกว่า
  • สภาพแวดล้อมการใช้งาน: หากใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมี ควรเลือกสเตนเลสที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง
  • มาตรฐานและการรับรอง: ตรวจสอบว่าสเตนเลสที่เลือกใช้ได้รับการรับรองมาตรฐาน FOOD GRADE จากองค์กรที่เชื่อถือได้

การดูแลรักษาสเตนเลสเกรด FOOD GRADE

เพื่อให้สเตนเลสเกรด FOOD GRADE มีอายุการใช้งานยาวนานและคงคุณภาพ ควรปฏิบัติดังนี้:

  • ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ: ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมและไม่กัดกร่อน เพื่อป้องกันการสะสมของคราบและแบคทีเรีย
  • หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่รุนแรง: สารเคมีที่มีความเป็นกรดหรือด่างสูงอาจทำลายพื้นผิวของสเตนเลส
  • ตรวจสอบสภาพเป็นประจำ: หากพบรอยขีดข่วนหรือความเสียหาย ควรซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ทันที

สรุป

สเตนเลสเกรด FOOD GRADE คือวัสดุที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารโดยเฉพาะ มีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการสัมผัสกับอาหารโดยไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ การเลือกใช้สเตนเลสเกรด FOOD GRADE ที่เหมาะสมและการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี จะช่วยให้อุตสาหกรรมอาหารสามารถผลิตอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูงสำหรับผู้บริโภค