ขั้นตอนการทำแห้งแบบลูกกลิ้งจากน้ำแป้งกล้วยดิบ
1.แป้งกล้วยที่นำมาแปรรูป
ขั้นตอนการทำแห้งแบบลูกกลิ้งจากน้ำแป้งกล้วยดิบ
1.แป้งกล้วยที่นำมาแปรรูป
ขั้นตอนการแปรรูปผงจากสารแต่งกลิ่นเปลือกไม้แอปเปิ้ลรมควัน
ขั้นตอนการแปรรูปผงจากสารแต่งกลิ่นเปลือกไม้แอปเปิ้ลรมควัน
1.แปรรูปให้เป็นของเหลวโดยการต้มสกัด เครื่องสกัดด่วน (HI SPEED EXTRACTOR) สามารถใช้สกัดสารสำคัญจากวัตถุดิบออกมาเป็นน้ำสกัดได้อย่างรวดเร็ว
2.แปรรูปด้วยเครื่องสเปรย์ดรายเออร์ (SPRAY DRYER) อบแห้งแบบพ่นฝอยจากของเหลวให้เป็นผงแห้ง
3.ผลิตภัณฑ์ผงสารแต่งกลิ่นเปลือกไม้แอปเปิ้ลรมควัน
ขั้นตอนการสกัดและระเหยเข้มข้นจากน้ำใบชาแดง
1.ใบชาที่นำมาแปรรูป
2.แปรรูปให้เป็นของเหลวโดยการต้มสกัด เครื่องสกัดด่วน (HI SPEED EXTRACTOR) สามารถใช้สกัดสารสำคัญจากวัตถุดิบออกมาเป็นน้ำสกัดได้อย่างรวดเร็ว
3.ผลิตภัณฑ์น้ำสกัดจากใบชาที่ได้
4. แปรรูปด้วย เครื่องระเหยเข้มข้น (FALLING FILM EVAPORATOR) ระเหยน้ำออกจากวัตถุดิบที่มีลักษณะเป็นของเหลวเพื่อทำให้เข้มข้น
5. ผลิตภัณฑ์น้ำใบชาแดงเข้มข้นที่ได้
ขั้นตอนการระเหยเข้มข้นและแปรรูปผงจากน้ำซุปปลา
1.น้ำซุปปลาที่นำมาแปรรูป
2.แปรรูปด้วย เครื่องระเหยเข้มข้น (FALLING FILM EVAPORATOR) ระเหยน้ำออกจากวัตถุดิบที่มีลักษณะเป็นของเหลวเพื่อทำให้เข้มข้น
3.ผลิตภัณฑ์น้ำซุปปลาเข้มข้นที่ได้
4.แปรรูปด้วย เครื่องสเปรย์ดรายเออร์ (SPRAY DRYER) อบแห้งแบบพ่นฝอยจากของเหลวให้เป็นผงแห้ง
5.ผลิตภัณฑ์ผงน้ำซุปปลาที่ได้
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed extract)
แหล่งที่มา : https://www.boon-herb.com/herballibrary/grape-seed-extract
ตั้งแต่อดีต คนโบราณไม่เพียงแต่ใช้องุ่นเพื่อการรับประทานและการดื่มเท่านั้น แต่ยังมีการนำเอาองุ่นไปทำเป็นยาอีกด้วย หลายส่วนของต้นองุ่นได้ถูกนำไปใช้สำหรับทำเป็นยาหรือสมุนไพร จนกระทั่งในปี ค.ศ.1970 นักชีวเคมีชาวฝรั่งเศสได้นำเอาเมล็ดองุ่นไปทำการสกัดและในที่สุดได้พบสารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากชื่อว่า “โอลิโกเมอริก โปรแอนโธไซยานิดินส์ (Oligomeric Proanthocyanidins) หรือ OPCs”
OPCs คืออะไร
แหล่งที่มา : https://www.cbinterlab.com/product/static-cat0Product2
OPCs เป็นสารสำคัญอีกชนิดหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มของไบโอฟลาโวนอยด์ มีคุณสมบัติที่สำคัญในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง และละลายน้ำได้ดี ดังนั้นจึงมีประสิทธิภาพมากในการปกป้องเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ รวมถึงมีประสิทธิภาพในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินซีถึง 20 เท่า และมากกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่า
หน้าที่ของสารสกัดเมล็ดองุ่น
ข้อควรระวัง : ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีภาวะเลือดแข็งตัวช้าหรือใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด และควรหยุดการรับประทานอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนและหลังการผ่าตัดหรือทำฟัน
แหล่งที่มา : https://biopharm.co.th/
ขั้นตอนการทำแห้งแบบลูกกลิ้งจากอาหารทางสายยาง
1.อาหารทางสายยางที่นำมาแปรรูป
2.แปรรูปด้วย เครื่องทำแห้งแบบลูกกลิ้งคู่ ( TWIN DRUM DRYER ) ทำวัตถุดิบของเหลวให้แห้งโดยเทวัตถุดิบของเหลวลงในช่องระหว่างลูกกลิ้ง
3.ผลิตภัณฑ์ผงอาหารทางสายยางที่ได้
กล้วยน้ำว้าดิบ พบสารสำคัญสรรพคุณล้นในการรักษาโรค
ขึ้นชื่อว่ากล้วย ผลไม้รสชาติหวาน อร่อย กินได้ง่ายทุกเพศ ทุกวัย หากินได้ทั่วทุกแห่งในโลก แต่สำหรับประเทศเรานั้นมีกล้วยเพียงไม่กี่ชนิดที่คนนิยมกินมาก เช่น กล้วยหอม กล้วยหักมุก กล้วยเล็บมือนาง และกล้วยน้ำว้า โดยเฉพาะกล้วยอย่างหลังสุด “กล้วยน้ำว้า” มีสรรพคุณทางยามากมาย จนมีการศึกษาและงานวิจัยออกมายืนยันสรรพคุณอยู่เรื่อย ๆ เราจึงรวบรวม งานวิจัยผงกล้วยน้ำว้าดิบ ที่เรียกได้ว่าสรรพคุณล้นหลามในการรักษาโรค
สารสำคัญในกล้วยน้ำว้าดิบผง
แหล่งที่มา : http://www.thaicrudedrugom |
ในผงกล้วยน้ำว้าดิบ นั้นจะประกอบไปด้วยสารสำคัญอย่าง สารแทนนิน (Tannin) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารตกตะกอนโปรตีน มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราได้ดี จึงช่วยเคลือบป้องกันผนังกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่ให้ถูกทำลายโดยอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน อาหารที่ส่งผลต่อการระคายเคืองที่กระเพาะ รวมถึงกรดในกระเพาะในช่วงที่ท้องว่าง
นอกจากนี้กล้วยดิบ ยังช่วยรักษาอาการท้องเสียได้ด้วย
ซึ่งสารอีกตัวหนึ่งที่สำคัญมากที่พบได้ในกล้วยดิบ นั่นคือ เซโรโทนิน ออกฤทธิ์กระตุ้นให้ผนังเยื่อบุกระเพาะอาหารหลั่งเมือกออกมาเคลือบกระเพาะ ป้องกันการถูกกรดในกระเพาะอาหารย่อยอีกทีหนึ่ง
ยังมีงานวิจัยศึกษาว่า กล้วยน้ำว้าดิบ ช่วยป้องกันและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร โดยทำการทดลองกับหนูขาวด้วยการป้อนกล้วยน้ำว้าดิบ พบว่า กล้วยนั้นสามารถต้านการเกิดแผลในกระเพาะ โดยกลไกการออกฤทธ์น่าจะเกิดการกระตุ้นให้เซลล์ในเยื่อบุกระเพาะอาหาร เกิดจากการหลั่งสารจำพวก Mucin ที่หลั่งออกมาเพื่อเคลือบกระเพาะ ซึ่งได้ผลที่ดีกว่ายาปฏิชีวนะอย่าง Aluminium hydroxide, Cimetidine และ Poslagiandin
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในผู้ที่อ้วนลงพุง โดยพบว่า การกินผงกล้วยดิบมีผลช่วยลดขนาดรอบสะโพก (hip circumference) ลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดัน การกินผงกล้วยดิบมีผลช่วยให้รูปร่างและค่าทางชีวเคมีในเลือดของผู้ป่วยที่มีน้ำหนักเกินและมีภาวะอ้วนลงพุงดีขึ้นได้ แต่ไม่ได้ผลในกลุ่มผู้ที่น้ำหนักเกิน แต่ไม่ถึงกับอ้วนลงพุง
แหล่งที่มา : https://www.krodlaiyon.com/research-banana-namwa/
|
วิธีการทำแป้งกล้วย
แหล่งที่มา : https://www.kasettambon.com
ขั้นตอนการแปรรูปผงจากอาหารทางสายยาง
1.น้ำอาหารทางสายยางนำมาแปรรูป
2.แปรรูปด้วย เครื่องสเปรย์ดรายเออร์ (SPRAY DRYER) อบแห้งแบบพ่นฝอยจากของเหลวให้เป็นผงแห้ง
3.ผลิตภัณฑ์ผงอาหารทางสายยางที่ได้
ขั้นตอนการบีบน้ำมันจากเมล็ดถั่วดาวอินคา
1.ถั่วดาวอินคาที่นำมาแปรรูป
2.แปรรูปด้วยเครื่อง OIL PRESS เครื่องหีบน้ำมันแบบเย็น เป็นเครื่องสกัดน้ำมันแบบเย็นโดยแรงบีบอัดแบบเกลียวเพื่อสกัดน้ำมันออกจากวัตถุดิบ
3.ผลิตภัณฑ์น้ำมันถั่วดาวอินคาที่ได้
ดาวอินคา ประโยชน์ดี ๆ สรรพคุณเด่น ๆ และข้อมูลงานวิจัย
ถิ่นกำเนิดดาวอินคา
ดาวอินคา เป็นพืชวงศ์ Euphorbiaceae เช่นเดียวกับ ยางพารา สบู่ดำ หรือมันสำปะหลัง ถั่วดาวอินคาในปัจจุบันก็มีการเพาะปลูกดาวอินคาในแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีการนำดาวอินคามาแปรรูป เช่น น้ำมันดาวอินคาที่ได้จากการสกัด ถั่วดาวอินคาอบเกลือ หรือถั่วดาวอินคาคั่ว
ประโยชน์และสรรพคุณดาวอินคา
เมล็ดดาวอินคา สามารถใช้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว เช่น ถั่วคั่วเกลือ ถั่วทอด หรือ นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร อาทิ ซอส ซีอิ้ว เต้าเจี้ยว รวมถึงแปรรูปเป็นแป้ง
รูปแบบและขนาดวิธีใช้ดาวอินคา
ในปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดรูปแบบ / ขนาดการใช้หรือขนาดรับประทานดาวอินคาอย่างแน่ชัด โดยบางงานวิจัยระบุว่า เมล็ดดาวอินคารับประทานไม่ได้
เนื่องจากมีสารกลุ่มที่ยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ทริปซิน (trypsin inhibitor) แต่สามารถนำมาหีบเอาน้ำมันมาใช้รับประทานเพื่อให้ได้ประโยชน์จากน้ำมันดาวอินคา และบางงานวิจัยระบุว่าเมล็ดดาวอินคาสามารถรับประทานได้เมื่อทำให้สุกแล้ว
องค์ประกอบทางเคมี
ส่วนคุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดดาวอินคา (คั่วเกลือ ปริมาณ 100 กรัม)
เมล็ดดาวอินคาเป็นแหล่งของโปรตีน (ประมาณ 27%)
แหล่งที่มา : Wikipedin
การศึกษาทางเภสัชวิทยา
งานวิจัยทางคลินิกที่ศึกษาถึงผลของน้ำมันดาวอินคา ว่ามีคุณสมบัติที่สามารถนำมาใช้แทนโอเมก้า-3 ที่มีอยู่ในน้้ามันปลาได้หรือไม่ โดยมีงานวิจัยที่ศึกษาผลของน้ำมันจากดาวอินคาต่อการลดระดับไขมันในเลือด ทดลองในผู้ป่วยที่มีปัญหาคลอเรสเตอรอลในเลือดสูง โดยให้รับประทานน้ำมันที่สกัดจากดาวอินคา 5 หรือ10 มิลลิลิตรเป็นระยะเวลา 4 เดือน พบว่า ทั้ง 2 กลุ่มมีผลคลอเรสเตอรอลทั้งหมดและไขมันที่ไม่จำเป็นในเลือดลดลง และเพิ่มระดับไขมันเอชดีแอล แสดงให้เห็นถึงว่ากรดไขมันโอเมก้า-3 ที่อยู่ในดาวอินคาออกฤทธิ์คล้ายคลึงกับกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่สกัดออกมาได้จากน้ำมันปลา
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง