ไฟดักแมลง INSECT TRAP คืออะไร
ไฟดักแมลง (INSECT TRAP) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการล่อและดักจับแมลง โดยเฉพาะแมลงบิน เช่น ยุง แมลงวัน หรือแมลงเม่า นิยมใช้ในโรงงานอาหาร ร้านอาหาร โรงพยาบาล และที่อยู่อาศัย เพื่อควบคุมปริมาณแมลงและลดความเสี่ยงในการปนเปื้อน
หลักการของเครื่อง
หลักการทำงานของ INSECT TRAP คือการใช้แสงไฟจากหลอด UV (ULTRAVIOLET LIGHT) ซึ่งจะล่อแมลงให้บินเข้ามาใกล้ และจากนั้นแมลงจะถูกจับด้วยแผ่นกาวหรือถูกดูดเข้าสู่กับดักด้วยพัดลมหรือระบบไฟฟ้าแรงดันต่ำ
องค์ประกอบของเครื่อง
องค์ประกอบหลักของ INSECT TRAP ได้แก่:
-
UV LAMP: แหล่งกำเนิดแสงที่ล่อแมลง
-
GLUE BOARD หรือ ELECTRIC GRID: ส่วนที่ใช้ในการจับหรือกำจัดแมลง
-
FAN หรือ SUCTION SYSTEM: ระบบดูดแมลง (ในบางรุ่น)
-
HOUSING: โครงสร้างของเครื่อง มักทำจากสแตนเลสหรือพลาสติกทนไฟ
-
SWITCH & POWER SUPPLY: ระบบควบคุมการทำงาน
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากเครื่องนี้
แม้ว่าเครื่องนี้ไม่ได้ผลิตสินค้าโดยตรง แต่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการผลิตสินค้า เช่น:
-
อาหารแปรรูปที่ต้องการพื้นที่ปราศจากแมลง
-
เวชภัณฑ์หรือเครื่องมือแพทย์
-
บรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความสะอาดสูง
ราคาโดยประมาณของเครื่อง
ราคาของ INSECT TRAP ขึ้นอยู่กับขนาด กำลังวัตต์ และเทคโนโลยีที่ใช้ โดยมีราคาประมาณ:
-
รุ่นเล็กสำหรับบ้านเรือน: 500 – 1,500 บาท
-
รุ่นกลางสำหรับร้านอาหาร/สำนักงาน: 2,000 – 4,000 บาท
-
รุ่นใหญ่สำหรับโรงงาน: 5,000 – 15,000 บาท
ข้อดีข้อเสียของเครื่อง
ข้อดี:
-
ควบคุมแมลงได้อย่างปลอดภัย ไม่ใช้สารเคมี
-
ลดความเสี่ยงการปนเปื้อนในอาหารและพื้นที่สะอาด
-
ใช้งานง่ายและบำรุงรักษาต่ำ
ข้อเสีย:
-
ต้องเปลี่ยนแผ่นกาวหรือหลอด UV เป็นระยะ
-
มีประสิทธิภาพเฉพาะในรัศมีที่แสงเข้าถึง
-
ไม่เหมาะกับพื้นที่กลางแจ้ง
วิธีการเลือกเครื่อง
การเลือก INSECT TRAP ควรพิจารณาจาก:
-
ขนาดพื้นที่ที่จะติดตั้ง
-
ชนิดของแมลงที่ต้องการควบคุม
-
ความถี่ในการใช้งาน
-
งบประมาณที่มี
-
มาตรฐานของอุปกรณ์ เช่น CE, ROHS, หรือ FDA APPROVED
วัตถุดิบที่ใช้กับเครื่อง
โดยทั่วไป INSECT TRAP ไม่ใช้วัตถุดิบโดยตรง แต่จำเป็นต้องมีวัสดุสิ้นเปลือง เช่น:
-
GLUE BOARD (แผ่นกาว)
-
UV BULB (หลอดไฟยูวี)
-
FUSE หรือ FILTER (ในบางรุ่น)
ประวัติความเป็นมาของเทคโนโลยีนี้
เทคโนโลยีไฟดักแมลงเริ่มต้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยใช้ไฟธรรมดาในการล่อแมลง จนกระทั่งมีการค้นพบว่าแสง ULTRAVIOLET มีประสิทธิภาพมากกว่าในการล่อแมลง จึงได้พัฒนาเครื่องดักแมลงระบบ UV ขึ้นมาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับความนิยมเรื่อยมาจนปัจจุบัน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและสุขอนามัย