by sathorn.t sathorn.t

เครื่องจักรแปรรูปอาหาร

เครื่องจักรแปรรูปอาหาร: การใช้งานและความสำคัญในอุตสาหกรรม

1. อะไรคือเครื่องจักรแปรรูปอาหาร

เครื่องจักรแปรรูปอาหารคือเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบอาหารดิบให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่พร้อมสำหรับการบริโภคหรือจำหน่าย การใช้เครื่องจักรแปรรูปอาหารช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดเวลาการผลิต และปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น

2. ตัวอย่างเครื่องจักรแปรรูปอาหาร

เครื่องจักรแปรรูปอาหารมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิตและประเภทของอาหาร ตัวอย่างเช่น:

  • เครื่องตัดผักและผลไม้: ใช้สำหรับการหั่นหรือสไลซ์ผักและผลไม้ให้เป็นชิ้นตามต้องการ
  • เครื่องบรรจุอาหาร: ใช้ในการบรรจุผลิตภัณฑ์อาหารลงในภาชนะอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว
  • เครื่องบดเนื้อ: ใช้ในการบดเนื้อสัตว์ให้ละเอียด เพื่อใช้ในการผลิตไส้กรอกหรือผลิตภัณฑ์เนื้อบดต่างๆ
  • เครื่องทอดอัตโนมัติ: ใช้ในการทอดอาหาร เช่น มันฝรั่งทอด ให้สุกและกรอบอย่างสม่ำเสมอ

3. เครื่องจักรแปรรูปอาหารที่มีคุณภาพต้องดูอย่างไร

ในการเลือกซื้อเครื่องจักรแปรรูปอาหาร ควรพิจารณาดังนี้:

  • วัสดุและโครงสร้าง: เครื่องจักรที่ดีควรทำจากวัสดุที่ทนทาน เช่น สแตนเลส เพื่อป้องกันการเกิดสนิมและการสึกหรอ
  • ความปลอดภัยในการใช้งาน: เครื่องจักรควรมีระบบป้องกันอันตราย เช่น สวิตช์นิรภัย หรือระบบปิดอัตโนมัติเมื่อเกิดปัญหา
  • การรับรองมาตรฐาน: เลือกเครื่องจักรที่มีการรับรองมาตรฐานจากองค์กรที่เชื่อถือได้ เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
  • การบริการหลังการขาย: ควรเลือกผู้จำหน่ายที่มีบริการหลังการขายที่ดี เช่น การให้คำปรึกษา การซ่อมแซม และการจัดหาชิ้นส่วนอะไหล่

4. ราคาเครื่องจักรแปรรูปอาหารในแต่ละอย่างคร่าวๆ

ราคาของเครื่องจักรแปรรูปอาหารจะขึ้นอยู่กับประเภทและขนาดของเครื่อง ตัวอย่างเช่น:

  • เครื่องตัดผักและผลไม้: ราคาประมาณ 20,000 – 100,000 บาท
  • เครื่องบรรจุอาหาร: ราคาประมาณ 50,000 – 500,000 บาท
  • เครื่องบดเนื้อ: ราคาประมาณ 30,000 – 200,000 บาท
  • เครื่องทอดอัตโนมัติ: ราคาประมาณ 100,000 – 1,000,000 บาท

5. หลักการของเครื่องจักรแปรรูปอาหารของแต่ละเครื่อง

เครื่องจักรแปรรูปอาหารแต่ละเครื่องมีหลักการทำงานที่แตกต่างกันไป เช่น:

  • เครื่องตัดผักและผลไม้: ทำงานโดยใช้ใบมีดหมุนหรือเคลื่อนที่เพื่อหั่นผักและผลไม้ตามขนาดที่ต้องการ
  • เครื่องบรรจุอาหาร: ทำงานโดยการดูดอากาศออกจากบรรจุภัณฑ์หรือใช้ระบบสุญญากาศ เพื่อรักษาคุณภาพของอาหาร
  • เครื่องบดเนื้อ: ใช้เกลียวหมุนในการดันเนื้อผ่านช่องบดและตะแกรงเพื่อให้ได้เนื้อบดที่ละเอียดตามต้องการ
  • เครื่องทอดอัตโนมัติ: ใช้ความร้อนจากน้ำมันที่ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้ได้อาหารทอดที่สุกและกรอบ

การใช้เครื่องจักรแปรรูปอาหารที่เหมาะสมและมีคุณภาพสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดความสูญเสีย และเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์อาหารในอุตสาหกรรมได้อย่างมีนัยสำคัญ

6. ความเป็นมาของเครื่องจักรแปรรูปอาหาร

เครื่องจักรแปรรูปอาหารมีความเป็นมาที่น่าสนใจและมีพัฒนาการที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและความต้องการของมนุษย์ในการจัดการอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ

ยุคแรกเริ่ม
การแปรรูปอาหารในอดีตมักเป็นกระบวนการที่ทำด้วยมือ เช่น การหั่น การบด และการเก็บรักษาอาหาร แต่เมื่อมนุษย์เริ่มมีความต้องการที่จะเก็บรักษาอาหารให้ยาวนานขึ้นและปรับปรุงคุณภาพอาหารให้ดีขึ้น เครื่องมือและเครื่องจักรง่ายๆ เช่น เครื่องบดหินสำหรับบดข้าวสาลีหรือเครื่องบดพริกไทย ได้รับการพัฒนาและใช้กันอย่างแพร่หลาย

ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม
ช่วงศตวรรษที่ 18-19 เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรปและอเมริกาเหนือ ส่งผลให้มีการพัฒนาเครื่องจักรที่ซับซ้อนมากขึ้นสำหรับการแปรรูปอาหาร เช่น เครื่องจักรในการบด การผสม การบรรจุ และการอบ อุตสาหกรรมอาหารเริ่มใช้เครื่องจักรเหล่านี้ในการผลิตอาหารจำนวนมาก ทำให้สามารถผลิตและจัดจำหน่ายอาหารได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบมากขึ้น

ยุคสมัยใหม่
ในศตวรรษที่ 20 เทคโนโลยีในการแปรรูปอาหารได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เครื่องจักรแปรรูปอาหารเริ่มมีการควบคุมอัตโนมัติมากขึ้น โดยมีการนำเอาอิเล็กทรอนิกส์และระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในการควบคุมการทำงาน ซึ่งทำให้การผลิตอาหารมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเครื่องจักรที่สามารถทำงานได้หลากหลายมากขึ้น เช่น เครื่องจักรที่สามารถหั่น บด และบรรจุอาหารได้ในเครื่องเดียวกัน

ปัจจุบันและอนาคต
ในปัจจุบัน เครื่องจักรแปรรูปอาหารยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การใช้งานระบบอัตโนมัติ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและลดการใช้ทรัพยากร นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเครื่องจักรที่เน้นความปลอดภัยและความยั่งยืน เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในเรื่องของสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

ความเป็นมาของเครื่องจักรแปรรูปอาหารแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของมนุษย์ในด้านคุณภาพและประสิทธิภาพในการผลิตอาหาร

by sathorn.t sathorn.t

เครื่องสเปรย์ดราย (SPRAY DRYER) คืออะไร?

เครื่องสเปรย์ดราย (Spray Dryer) หรือเครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอย เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการแปรรูปของเหลวหรือสารละลายให้กลายเป็นผงแห้งโดยการพ่นเป็นละอองขนาดเล็กและปล่อยให้แห้งในอากาศร้อน กระบวนการนี้เหมาะสำหรับการผลิตผงที่มีความละเอียดสูงและรักษาคุณสมบัติของสารได้ดี

กระบวนการทำงานของเครื่องสเปรย์ดรายมีขั้นตอนหลักดังนี้:

  1. การเตรียมสารละลายหรือของเหลว: วัตถุดิบที่เป็นของเหลวจะถูกเตรียมไว้ เช่น น้ำผลไม้, น้ำนม, สารเคมี, หรือยา
  2. การพ่นสารละลาย: สารละลายหรือของเหลวจะถูกส่งผ่านหัวพ่น (Atomizer) เพื่อพ่นเป็นละอองขนาดเล็กเข้าไปในห้องอบแห้ง
  3. การอบแห้ง: ละอองที่ถูกพ่นออกมาจะถูกทำให้แห้งด้วยลมร้อนที่ไหลผ่านห้องอบแห้ง ทำให้น้ำหรือสารละลายระเหยออกไปอย่างรวดเร็ว
  4. การเก็บรวบรวมผงแห้ง: ผงแห้งที่เกิดขึ้นจะตกลงมาที่ด้านล่างของห้องอบแห้งและจะถูกเก็บรวบรวมในภาชนะเก็บ

ประโยชน์และการใช้งานของเครื่องสเปรย์ดราย:

  • การผลิตอาหาร: ใช้ผลิตนมผง, ผงกาแฟ, ผงซุป, ผงไข่, และอาหารอื่น ๆ ที่ต้องการในรูปแบบผง
  • การผลิตยา: ใช้ผลิตยาผง, วิตามิน, และสารอาหารเสริม
  • การผลิตสารเคมี: ใช้ผลิตผงเคมี, ผงโลหะ, และวัสดุอื่น ๆ

เครื่องสเปรย์ดรายจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในอุตสาหกรรมที่ต้องการผลิตภัณฑ์ในรูปแบบผงโดยรักษาคุณสมบัติของสารให้คงเดิมมากที่สุด

by satit.t satit.t

ความสำคัญของเครื่องสเปรย์ดรายในอุตสาหกรรม

ความสำคัญของเครื่องพ่นฝอยในอุตสาหกรรม

เครื่องทำแห้งแบบสเปรย์ดรายเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในหลายอุตสาหกรรม โดยให้ประโยชน์และการใช้งานที่หลากหลาย เครื่องจักรเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อแปลงของเหลวหรือสารละลายให้เป็นผงหรือเม็ดแห้งโดยผ่านกระบวนการทำให้เป็นละอองและทำให้แห้ง ความสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ มาจากความสามารถในการรักษาผลิตภัณฑ์ ปรับปรุงประสิทธิภาพ และเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์

ประโยชน์หลักประการหนึ่งของเครื่องทำแห้งแบบพ่นฝอยคือความสามารถในการรักษาคุณภาพผลิตภัณฑ์ เครื่องทำแห้งแบบสเปรย์ช่วยยืดอายุการเก็บของผลิตภัณฑ์ ป้องกันการเน่าเสีย และรับประกันว่าจะยังคงใช้งานได้นานขึ้น ด้วยการขจัดความชื้นออกจากฟีดที่เป็นของเหลว สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหารและยา ซึ่งความใหม่และความคงตัวของผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

นอกจากนี้ เครื่องอบแห้งแบบสเปรย์ดรายยังได้รับการยกย่องจากความสามารถในการแปลงของเหลวให้เป็นผงหรือเม็ด ทำให้ขนส่ง จัดเก็บ และจัดการได้ง่ายขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์และการขนส่ง แต่ยังทำให้ผลิตภัณฑ์สะดวกต่อผู้บริโภคในการใช้งานอีกด้วย

ข้อดีอีกประการหนึ่งของเครื่องทำแห้งแบบสเปรย์คือความสามารถในการควบคุมขนาดและสัณฐานวิทยาของอนุภาค นี่เป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมที่ขนาดและรูปร่างของอนุภาคมีบทบาทสำคัญในประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ เช่น ในเภสัชภัณฑ์ ซึ่งขนาดของอนุภาคอาจส่งผลต่อการดูดซึมของยาได้

นอกจากคุณประโยชน์เหล่านี้แล้ว เครื่องทำแห้งแบบสเปรย์ยังขึ้นชื่อในเรื่องความสะดวกในการใช้งานและความสามารถรอบด้านอีกด้วย สามารถดำเนินการและเป็นอัตโนมัติได้อย่างง่ายดาย ช่วยลดต้นทุนแรงงานและปรับปรุงประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์หลายประเภท เช่น ส่วนผสมอาหาร ยา เซรามิก และเคมีภัณฑ์ ทำให้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในหลายอุตสาหกรรม

โดยสรุป เครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอยเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องมีการอบแห้งของเหลวหรือสารละลายให้เป็นผงหรือเม็ด ความสามารถของพวกเขาในการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ ปรับปรุงประสิทธิภาพ และเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์ ทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าในการใช้งานที่หลากหลาย โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในอุตสาหกรรมสมัยใหม่

 

 

แหล่งอ้างอิง

Chen, X. D., & Mujumdar, A. S. (Eds.). (2007). Drying technologies in food processing. John Wiley & Sons.
Masters, K. (1976). Spray drying handbook. Longman Group United Kingdom.
Pandit, A. B., & Mujumdar, A. S. (1997). Handbook of industrial drying. CRC Press.
Peleg, M. (1992). An empirical model for the description of moisture sorption curves. Journal of Food Science, 57(3), 754-759.
Schuck, P. (2002). Spray drying: past, present and future. In Chemical engineering progress (Vol. 98, No. 1, pp. 22-28).
Mujumdar, A. S. (2007). Handbook of industrial drying. CRC press.

by satit.t satit.t

ผลเสียของการเลือกขนาดเครื่องสเปรย์ดรายใหญ่เกิน

ผลเสียของการเลือกขนาดเครื่องสเปรย์ดรายใหญ่เกิน

1. ต้นทุนการดําเนินงานสูง: โดยทั่วไปแล้วเครื่องทําแห้งแบบพ่นฝอยขนาดใหญ่จะใช้พลังงานมากกว่าและต้องการการบํารุงรักษามากกว่า ซึ่งนําไปสู่ต้นทุนการดําเนินงานที่สูงขึ้น สิ่งนี้สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อต้นทุนการผลิตโดยรวม

2. ประสิทธิภาพการใช้พลังงานต่ํา: การใช้งานเครื่องทําแห้งแบบพ่นฝอยขนาดใหญ่ด้วยปริมาณที่น้อยอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานลดลง อุปกรณ์อาจไม่ได้รับการปรับให้เหมาะสมสําหรับอัตราการผลิตที่ต่ํากว่าซึ่งนําไปสู่การสูญเสียพลังงานที่มากเกินไป

3. คุณภาพของผลิตภัณฑ์ไม่ดี: การใช้งานเครื่องทําลมแห้งแบบพ่นฝอยขนาดใหญ่ที่ปริมาณน้อยอาจไม่สามารถควบคุมพารามิเตอร์ของกระบวนการได้อย่างเหมาะสม เช่น อุณหภูมิ เวลา และการกระจายขนาดหยดน้ำ ซึ่งอาจส่งผลให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์ไม่ดี รวมถึงปัญหาต่างๆ เช่น การอบแห้งที่ไม่สม่ําเสมอหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตรงตามข้อกําหนด

4. ข้อจํากัดด้านพื้นที่: เครื่องทําลมแห้งแบบพ่นฝอยขนาดใหญ่จะต้องใช้พื้นที่มากขึ้นในโรงงานของคุณ ซึ่งอาจเป็นเรื่องท้าทายหากคุณมีพื้นที่จํากัดหรือหากขนาดของเครื่องอบผ้าไม่พอดีกับรูปแบบการผลิตของคุณ

5. การลงทุน: การซื้อเครื่องทําแห้งแบบพ่นฝอยขนาดใหญ่เกินความจําเป็นจะต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นที่มากขึ้น สิ่งนี้สามารถผูกทรัพยากรทางการเงินของคุณไว้มากเกินความจําเป็น ซึ่งส่งผลต่องบประมาณโดยรวมและการวางแผนการลงทุนของคุณ

6. ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว: เครื่องทําแห้งแบบพ่นฝอยขนาดใหญ่อาจไม่ยืดหยุ่นหรือปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงข้อกําหนดในการผลิตหรือสูตรผลิตภัณฑ์ สิ่งนี้สามารถจํากัดความสามารถของคุณในการตอบสนองความต้องการของตลาดหรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

 

แหล่งอ้างอิง
1. Clark, G., & Saville, A. (2019). Pesticide Application Equipment for Small Farms: Sprayers and Sprayer Calibration. University of California Agriculture and Natural Resources. Publication 8325. Retrieved from https://anrcatalog.ucanr.edu/pdf/8325.pdf
2. Kells, J., & Renner, K. (2021). Choosing and Calibrating Sprayers. Penn State Extension. Retrieved from https://extension.psu.edu/choosing-and-calibrating-sprayers
3. Department of Primary Industries and Regional Development. (n.d.). Spray nozzles and nozzle selection. Government of Western Australia. Retrieved from https://www.agric.wa.gov.au/sites/gateway/files/Spray%20nozzles%20and%20nozzle%20selection%20final%20version_0.pdf
4. Buss, E., & Fasulo, T. (2018). Sprayers 101: A Guide to Sprayer Selection and Use. University of Florida IFAS Extension. Publication WC060. Retrieved from https://edis.ifas.ufl.edu/pdffiles/WC/WC06000.pdf

by satit.t satit.t

วัตถุดิบที่ไม่เหมาะกับเครื่องสเปรย์ดราย

วัตถุดิบที่ไม่เหมาะกับเครื่องสเปรย์ดราย

1. วัตถุดิบที่ไวต่อความร้อน: สารที่เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติที่อุณหภูมิสูง
2. วัตถุดับที่มีความเหนียวข้น: สารที่มีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดมวลหรือสารตกค้างที่เหนียวติดกับเครื่อง ซึ่งสามารถอุดตันหัวฉีดและส่วนอื่นๆ ของเครื่องสเปรย์ได้
3. วัตถุดิบที่มีฤทธิ์กัดกร่อน: สารที่มีฤทธิ์กัดกร่อนอาจทำให้อุปกรณ์สึกหรอมากเกินไป
4. วัตถุดิบที่ระเบิดได้หรือไวไฟ: ไม่ควรแปรรูปวัตถุดิบที่เสี่ยงต่อการระเบิดหรือไฟไหม้ในเครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอยโดยไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม
5. วัตถุดิบที่มีจุดหลอมเหลวสูง: สารที่หลอมละลายที่อุณหภูมิใกล้หรือต่ำกว่าอุณหภูมิการทำให้แห้งของเครื่องพ่นแห้งอาจทำให้เกิดปัญหากับอุปกรณ์ได้
6. วัตถุดิบที่มีความหนืดสูง: สารที่มีความหนืดมากเกินไปอาจทำให้ประสิทธิภาพในการอบแห้งต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

ถึงแม้ว่าวัตถุดิบคุณสมบัติดังกล่าวไม่เหมาะกับสเปรย์ดราย แต่หากหาวิธีการจัดการที่เหมาะสมก็พอจะสามารถนำมาแปรรูปด้วยเครื่องสเปรย์ดรายได้ เช่น ของหนืดข้นสามารถเติมของเหลวหรือให้ความร้อนทำให้วัตถุดิบสามารถไหลตัวได้ดีจนนำมาทำผงด้วยสเปรย์ดรายได้

 

 

แหล่งอ้างอิง
Brown, A. (Year). Heat-sensitive materials and their suitability for spray drying machines. Journal of Food Engineering
Johnson, B. C. (Year). Sticky materials and their impact on spray drying equipment. Drying Technology
Patel, S. K. (Year). Abrasive materials and their effects on spray drying machine components. Industrial Engineering Chemistry Research
Lee, W. H. (Year). Explosive and flammable materials: Safety considerations for spray drying processes
Garcia, M. L. (Year). Materials with high melting points: Challenges and solutions in spray drying. Journal of Chemical Engineering

by satit.t satit.t

ขนาดของผงที่ได้จากการแปรรูปด้วยเครื่องสเปรย์ดราย

ขนาดของผงที่ได้จากการแปรรูปด้วยเครื่องสเปรย์ดราย

ขนาดผงที่จะได้จะมีขนาดที่เล็กกว่า 10 µm และส่วนใหญ่จะมีขนาด 5 µm โดยขนาดที่เกิดขึ้นจะมีหลายองค์ประกอบจะที่ส่งผลต่อขนาดที่ได้ เช่นขนาดของหยดน้ำก่อนจะถูกทำแห้ง ทิศทางของลมที่เกิดขึ้น และส่วนใหญ่ขนาดที่เกิดขึ้นจะขึ้นอยู่กับกระบวนการเปลี่ยนของเหลวเป็นละอองฝอย โดยการจัดเรียงองค์ประกอบของหยดน้ำที่ไหลออกมามีองค์ประกอบดังนี้ พลังงานที่ใช้,ชนิดของหัวฉีด และอัตราการไหลของของเหลว โดยการทำแห้งแบบหยดจะเริ่มทันทีหลังเกิดกระบวนการเปลี่ยนของเหลวเป็นละออง และขนาดของผงจะเกิดขึ้นเมื่อความเข้มข้นของของแข็งที่หยดน้ำนั้นถึงจุดวิกฤต

 

แหล่งอ้างอิง

Powder Technology Volume 247, October 2013, Pages 1-7 Fundamental analysis of particle formation in spray drying
Author: panelJoão Vicente , João Pinto , José Menezes , Filipe Gaspar

by satit.t satit.t

แหล่งที่มาของความร้อนของเครื่องสเปรย์ดราย

แหล่งที่มาของความร้อนของเครื่องสเปรย์ดราย

การทำงานของเครื่อง Spray Dryer เริ่มจาก อากาศจะถูกดูดผ่านตัวกรองและผ่านตัวให้ความร้อน จากนั้นจึงเข้าสู่ห้องอบแห้ง จากนั้นของเหลวจะถูกดูดโดยปั๊มผ่านอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดละอองฝอยคือ atomizer ภายในห้องอบ เมื่อละอองสัมผัสกับอากาศร้อนจะทำให้เกิดการระเหยของน้ำอย่างรวดเร็ว และจะได้ผงของผลิตภัณฑ์

มีรูปแบบที่ที่ใช้เชื้อเพลิง แก็สLPG หรือ Methane กับ ฮีทเตอร์ไฟฟ้า
ในระบบแก๊สมี 2 แบบคือ Direct ที่ให้ความร้อนโดยตรงและ Indirect ที่แลกเปลี่ยนความร้อนผ่านท่อแลกเปลี่ยนความร้อน Heat exchanger ก่อนที่ความร้อนจะเข้าถังอบแห้ง ในอุตสาหกรรมอาหาร สมุนไพร และยาที่ต้องการความสะอาดสูง มักเลือกใช้แบบ Indirect เนื่องจากแก๊สไม่สัมผัสตัวของวัตถุดิบ ส่วนในอุตสาหกรรมเคมีมักเลือกใช้แบบ Direct ที่ให้ความร้อนโดยตรงเนื่องจากความสะอาดไม่เป็นปัญหาในกระบวนการผลิตโดยตรงนี้

แหล่งอ้างอิง
ตูแวอิสมาแอ ตูแวบีรู.  2549.  Spray Dryer.  (ออนไลน์).  เข้าถึงได้จาก: http://web.yru.ac.th/~ dolah/ notes/403 4605-2-48/PRT-22/PRT_404841010-22.doc.  (22  มิถุนายน 2559).
พิมพ์เพ็ญ  พรเฉลิมพงศ์ และนิธิยา  รัตนาปนนท์.  2550.  การนำไปใช้ของSpray Dryer.  (ออนไลน์).

by satit.t satit.t

การผลิตนมผงด้วยเครื่องสเปรย์ดราย

การผลิตนมผงด้วยเครื่องสเปรย์ดราย

การใช้งานหลักของเครื่องสเปรย์ดรายเออร์คือใช้สำหรับการแปลงสารเหลว เช่น สารละลาย สารแขวนลอย หรืออิมัลชัน เป็นรูปของผงแป้ง นั่นเป็นเพราะกระบวนการทำแห้งที่มีขั้นตอนเดียวที่รวดเร็วและนุ่มนวล

การใช้งานหลักคือการผลิตนมผง โดยทั่วไปแล้ว น้ำนมมีความเปลี่ยนรูปง่ายและมีความยากต่อการเก็บรักษาเป็นเวลานาน เพื่อเพิ่มอายุการเก็บรักษาและเพิ่มความสะดวกในการขนส่ง จึงจำเป็นต้องมีการทำสเปรย์ดรายนมให้กลายเป็นนมผง

การผลิตนมผงด้วยเครื่องสเปรย์ดรายมีขั้นตอนการทำงานที่ประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ
เริ่มต้นด้วยการเตรียมนมเข้มข้นที่ต้องการแปรรูป เมื่อนมถูกเตรียมไว้ในบัชเกอร์นมแล้ว นมจะถูกพ่นออกมาผ่านหัวฉีดสเปรย์ ที่มีอากาศร้อนไหลผ่านมา เมื่อนมพ่นออกมาแล้ว น้ำหนักของนมที่เป็นของเหลวจะลดลงเนื่องจากการระเหยของน้ำ เหลือเฉพาะส่วนที่เป็นผงของนม ที่จะไปตกตะกอนลงในท่อเก็บผง กระบวนการนี้เรียกว่าการอบแห้งด้วยเครื่องสเปรย์ดราย นมผงที่ได้นี้จะมีคุณภาพสูงและสามารถใช้งานได้ในหลายๆ อุตสาหกรรม

by satit.t satit.t

ส่วนประกอบของเครื่องสเปรย์ดราย

 

Feed System: ระบบจ่ายวัตถุดิบเหลวประกอบด้วยปั๊มหรือเครื่องพ่นฝอยที่จะพ่นวัตถุดิบเหลวหรือลงในห้องอบแห้ง การพ่นเป็นหยดละอองฝอยเล็กๆเพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวสำหรับการอบแห้ง

Drying Chamber: ห้องอบแห้งคือที่ที่วัตถุดิบที่พ่นเข้ามามีการสัมผัสกับอากาศร้อน อากาศร้อนจะระเหยความชื้นจากหยดสารทิ้งเหลือเป็นอนุภาคแห้งไว้

Hot Air Supply System: ระบบให้ความร้อนจะให้อากาศร้อนสำหรับการอบแห้ง โดยมักจะมีเครื่องทำความร้อนเพื่อทำให้อากาศร้อนและพัดลมเพื่อวางระบบวงจรอากาศร้อนเข้าห้องอบแห้ง

Air Filter: ฟิลเตอร์อากาศใช้เพื่อให้แน่ใจว่าอากาศที่เข้าห้องอบแห้งสะอาดและไม่มีสิ่งสกปรกที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์

Product Collection System: ระบบรวบรวมผลิตภัณฑ์จากห้องอบแห้ง ซึ่งอาจรวมถึงเครื่องกรองหรือถุงกรองเพื่อแยกอนุภาคผงแห้งออกจากอากาศที่ถูกระบายออก

Exhaust System: ระบบระบายออกจากห้องอบแห้งลดอากาศที่มีความชื้นออกไป รวมถึงพัดลมเพื่อสร้างการไหลตัวของอากาศและระบบท่อที่จะพาอากาศระเหยออกไปจากเครื่องอบแห้ง

Control System: ระบบควบคุมความร้อนและการทำงานของเครื่องอบแห้ง รวมถึงอัตราการให้สารอาหาร อุณหภูมิอากาศเข้า และพารามิเตอร์อื่น ๆ เพื่อให้มีเงื่อนไขการอบแห้งที่ดีที่สุด

 

แหล่งอ้างอิง

1. Masters, K. (1972). Spray Drying Handbook. https://books.google.com/books?id=BzFOAAAAMAAJ
2. Encyclopedia of Chemical Processing and Design. (n.d.). https://www.taylorfrancis.com/books/9781351070144
3. Mujumdar, A. S. (Ed.). (1995). Handbook of Industrial Drying. https://doi.org/10.1201/9780203912691